Rap 101 : พื้นฐานของการแต่งเพลงแร็ป

โดยกำเนิดแล้ว Hip Hop (ฮิปฮอป) เป็นวัฒนธรรมที่ประกอบไปด้วยการแร็ป (Rapping), การดีเจ (DJing), การเต้น (Breakdancing), การเพ้นท์สีบนกำแพง (Graffiti) และการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัฒนธรรม Hip Hop

แต่ในการดนตรี แนวเพลง Hip Hop สื่อถึงการแร็ปเนื้อเพลงพร้อมกับเสียงดนตรี การแร็ปก็คือการร้องเพลงเป็นจังหวะหรือการร้องโดยใช้เสียงพูด ซึ่งการแร็ปจะเป็นการร้องเพลงที่มีจังหวะเร็วกว่าเพลงทั่วไปพร้อมกับการกำกับคำให้ฟังดูคล้องจอง

ไม่มีนักดนตรีคนไหนที่สร้างเพลงโดยไม่มีแรงบันดาลใจ เพราะการเป็นศิลปินคือการออกค้นหาแรงบันดาลใจที่เราหลงใหล เป็นการเสพสิ่งที่เราชอบหลาย ๆ อย่างจนกำเนิดสไตล์ที่ “เป็นของตัวเอง” ขึ้นมา งานศิลปะทุกอย่างที่เราเห็นหรือได้ยินมักจะมีกลิ่นอายของศิลปินท่านอื่นอยู่ในชิ้นงาน ซึ่งนั่นก็คือแรงบันดาลใจที่ผู้สร้างได้หยิบยกมาประยุกต์ในผลงานของตัวเอง เพราะฉะนั้น งานศิลปะก็คืองานที่ถูกสร้างขึ้นด้วยองค์ประกอบจากศิลปินในอดีต ซึ่งการแต่งเพลงแร็ปก็ไม่ต่างกัน นักแต่งเพลงจะต้องเริ่มจากการหาแรงบันดาลใจ

ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มหาแรงบันดาลใจจากไหน สามารถเริ่มจากการฟังศิลปินที่มือชื่อเสียงในวงการ Hip Hop :

ฝั่งตะวันตก : Jay-Z, Nas, Kendrick Lamar, Tupac, Eminem, The Notorious B.I.G., Snoop Dogg, Kanye West, J. Cole, Ice Cube, 50 Cent, Drake, LL Cool J, Lil Wayne, Missy Elliott, Nicki Minaj

ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเพลงแร็ป แต่ก็ไม่หนีโครงสร้างเพลงที่เป็นพื้นฐานอย่างการเรียง Verse, Chorus, Verse, Breakdown และจบที่ Chorus ซึ่งแร็ปเปอร์บางท่านก็อาจจะมีการสลับเล็กน้อยตามสไตล์ของตนเอง

“Beat” ในที่นี้ก็คือเสียงของดนตรีสังเคราะห์ต่าง ๆ จากเปียโน กลอง เบส กีตาร์ ที่ถูกนำมาจัดเรียงเพื่อให้เกิดเป็นทำนองและผสมผสานเข้ากับจังหวะเนื้อร้องได้อย่างลงตัว ซึ่งคุณเองก็สามารถสร้าง Beat เองได้ผ่านโปรแกรมบนคอมอย่าง Ableton Live หรือ FL Studio แต่ศิลปินแร็ปเปอร์ส่วนมากแล้วก็จะทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ของเขา

หาแรงบันดาลใจจากโปรดิวเซอร์แนวหน้า : Dr. Dre, Timbaland, DJ Premier, Madlib, RZA, Kanye West, Metro Boomin, Tyler, the Creator, NINO

เมื่อคุณได้เนื้อร้องและเสียงดนตรีแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องมาฝึกแร็ป เพราะการฝึกแร็ปจะช่วยให้คุณเห็นจุดบอดของเนื้อเพลงหรือจังหวะเพลงที่ควรแก้ไข สามารถลองอัดเสียงแร็ปของตัวเองและลองวิเคราะห์ว่าประโยคไหนที่ยังฟังดูติดขัด หรือหาคำที่คุณคิดว่าสามารถโฟกัสเสียงพยัญชนะนั้นได้มากขึ้น หรือคำไหนที่คุณควรร้องให้ชัดเจนมากขึ้น

หลังจากวิเคราะห์เสร็จแล้ว ก็ควรนำกลับไปปรับแก้ไขเนื้อร้องหรือเสียงดนตรี จนกว่าจะได้เวอร์ชันที่ “สมบูรณ์” สำหรับคุณ

และนี้ก็เป็นพื้นฐานของการแต่งเพลง Hip Hop หรือ “เพลงแร็ป” ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน จะเห็นว่าแต่งเพลงแร็ปนั้นมีความยากและรายละเอียดที่ซับซ้อนไม่แพ้แนวเพลงอื่น ๆ เลย เราหวังว่าคุณจะได้สนุกไปกับการแต่งเพลง Hip Hop ของคุณและประสบความสำเร็จในการแต่งเพลง Hip Hop

สำหรับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ หาได้ที่ IkonClass