ไม่ว่าคุณจะแต่งหน้าลุคอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมผิวหรือการบำรุงผิวให้สมดุลก่อนการแต่งหน้า ผิวจะต้องไม่แห้งจนเกินไปหรือมันจนเกินไป ทางที่ดีควรบำรุงผิวก่อนนอนเป็นประจำ แต่ในขั้นตอนการแต่งหน้าลุคกลางคืน แนะนำให้ทำความสะอาดใบหน้าและต่อด้วยการลงสกินแคร์ก่อนการแต่งหน้า สำหรับเทคนิคการเลือกและการลงสกินแคร์อ่านได้
ที่นี่ การบำรุงผิวที่ดีจะช่วยให้เครื่องสำอางอยู่บนผิวหน้าได้นานยิ่งขึ้น
เริ่มจากการลง Primer (ไพรเมอร์) เพื่อช่วยปกปิดรูขุมขนหรือริ้วรอยต่าง ๆ และช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียน จากนั้นตามด้วยการลงรองพื้นเพื่อช่วยปกปิดปัญหาผิวอีกที เทคนิคของการลงไพรเมอร์และรองพื้นคือให้ลงแบบไม่หนาจนเกินไป
เทคนิคเลือกรองพื้นของ ป้อม วินิจ : ถ้าต้องการสีผิวที่กระจ่างใสขึ้น ให้เลือกรองพื้นที่ขาวกว่าผิวจริงของเราแค่ ½ - 1 เบอร์ ถ้าอยากได้สีผิวออกแทนให้เลือกสีรองพื้นที่ตรงกับสีผิวของตัวเอง วิธีการทดสอบสีรองพื้น ให้ป้ายรองพื้นตรงแก้ม ถ้าสีรองพื้นกลืนไปกับผิวแสดงว่าสีนั้นใกล้เคียงกับสีผิวจริงมากที่สุด
สำหรับการคอนทัวร์ก็จะมีอยู่หลายผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มมิติและเปลี่ยนรูปทรงใบหน้า ซึ่งจะมีหลัก ๆ ด้วยกันตามนี้ :
- Shading : ใช้สำหรับการกำหนดโครงสร้างใบหน้า ให้เลือกสีด้านและสีที่ไม่กระจายแสง ควรเป็นสีเดียวกันกับรองพื้น
- Bronzer : มีจุดประสงค์ทำให้เนื้อรองพื้นมีความสว่างหรือความ “Glow” ขึ้นมา ควรเลือกเป็นสีที่ดูแวววาวและกระจายแสง
- Highlight : ใช้เพื่อสร้างมิติบนใบหน้า เช่น ไฮไลท์สันจมูกหรือโหนกแก้มให้ดูสูงกว่าปกติ หรือลงบนรอบดวงตาเพื่อให้ดูสว่างสดใส
สำหรับลุคแต่งหน้าไปงานกลางคืนก็ไม่ได้มีสูตรที่ตายตัว สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการจะปรับโครงหน้าก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้ แต่สำหรับคนที่อยากปรับโครงหน้า สามารถเลือกใช้ Shading เพื่อสร้างโหนกแก้มหรือทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น และใช้ Highlight บนสันจมูกและโหนกแก้ม
Blush On หรือบลัชออนจะมีโทนสีอมชมพูหรือชมพูแดง และมักจะใช้ปัดตรงบริเวณแก้มให้ดูมีสีสันและมีความสดใส ซึ่งสีของบลัชออนจะเลียนแบบสีแก้มที่มีเลือดฝาดเวลาเราออกกำลังกายหรือเวลาเขินอาย เป็นสีที่สื่อถึงสุขภาพผิวที่ดี
แต่งเปลือกตา : สำหรับการแต่งเปลือกตา การเลือกสีอายแชโดว์ขึ้นอยู่กับสีผิวของแต่ละคน กฎเหล็กของการเลือกสีเปลือกตาคือไม่ควรอ่อนกว่าสีผิวจริงของเรา แต่สำหรับแต่งหน้าไปงานกลางคืน สามารถลองเฉดสีเข้มอย่างสีน้ำตาลหรือสีแดงเพื่อให้เห็นได้ชัดขึ้น เทคนิคการแต่งตาของป้อม วินิจ คือการใช้ลิปสติกเนื้อน้ำสีนู้ดเป็นเบส จะทำให้การลงอายแชโดว์ติดทนนานมากยิ่งขึ้น
เขียนอายไลเนอร์ : สำหรับคนที่ไม่ได้มีชั้นตากว้าง ให้เลี่ยงการเขียน Full Liner เพราะจะทำให้อายไลเนอร์ปิดบังชั้นตาที่สองได้ แนะนำให้เขียนแค่ครึ่งเดียวพอ นอกจากนี้แล้ว คุณป้อม วินิจ ยังแนะนำให้เขียนอายไลเนอร์ให้ใกล้กับโคนขนตามากที่สุด ไม่อย่างนั้นแล้วจะดูเหมือนเส้นอายไลเนอร์ลอยอยู่เหนือโคนขนตา
ปัดขนตา : สำหรับสาวเอเชียที่มีตาเล็กอยู่แล้วยิ่งควรแต่งขนตาให้โค้งงอขึ้น เพราะการปัดขนตาโค้งงอจะช่วยลดแสงเงาบริเวณตา ทำให้ตาดูใหญ่ขึ้น เทคนิคการปัดมาสคาร่าคือปัดให้โคนหนาแต่ปลายบางเพื่อให้ขนตาอยู่ทรงนาน
เขียนคิ้ว : คิ้วที่สวยสำหรับทุกโอกาสคือคิ้วแบบธรรมชาติ จะมีความโค้งเล็กน้อยเพื่อรับกับดวงตา ส่วนหางคิ้วไม่ควรไม่ชี้ฟูจนเกินไป สามารถเขียนคิ้วได้ง่าย ๆ ตามนี้ :
- กำหนดทรงคิ้ว : ใช้อายแชโดว์เนื้อฝุ่นสีอ่อน ๆ เพื่อกำหนดทรงคิ้ว ข้อควรระวังคือไม่ควรเขียนหางคิ้วจนคมกริบ และหางคิ้วไม่ควรสูงกว่าหัวคิ้ว
- เพิ่มขนคิ้ว : ใช้ดินสอเขียนคิ้วที่มีสีใกล้เคียงกับขนคิ้ว จากนั้นเขียนลายเส้นตามองศาของขนคิ้ว เมื่อถึงกึ่งกลาง ให้วาดลายเส้นเทโคงลงมาเล็กน้อย
- จัดขนคิ้วด้วยมาสคาร่า : เริ่มจากหัวคิ้ว ใช้มาสคาร่าปัดคิ้วขึ้นในแนวตั้งตรง 90 องศา เมื่อถึงกึ่งกลางให้ปัดเฉียง 45 องศา ส่วนปลายคิ้วให้ปัดดิ่งลงตามลายเส้นดินสอก่อนหน้า
สำหรับการแต่งหน้าไปออกงานกลางคืน ริมฝีปากจะต้องดูเย้ายวนเมื่อเจอแสงตกกระทบ แนะนำให้เลือกใช้ลิปสติกที่มีเนื้อฉ่ำแวววาวสีชมพู โดยเฉพาะลิปกลอสจะเหมาะกับลุคกลางคืนเป็นอย่างมากเพราะสามารถสร้างจุดดึงดูดได้โดยไม่ต้องใช้ Highlight หรือลิปสติกอื่น ๆ ช่วย
ในขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้าออกงานกลางคืน สามารถใช้แป้งฝุ่นหรือแป้งทูเวย์เพื่อช่วยปกปิดริ้วรอยอีกครั้ง แนะนำให้เลือกใช้แป้งที่มีคุณสมบัติควบคุมความมันและการเบลอรูขุมขน นอกจากนี้แล้วยังสามารถใช้แป้งทูเวย์ลงใต้ตาเพื่อเพิ่มความสว่าง
