เทคนิคปลูกต้นไม้สำหรับมือใหม่

Sep 13 / IkonClass Staff
ในบทความก่อนหน้า ทาง IkonClass ได้นำเสนอต้นไม้ที่ดูแลง่ายสำหรับนักปลูกมือใหม่ไป ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการปลูกต้นไม้สำหรับมือใหม่ที่แสนจะง่ายดาย ขอแค่คุณอ่านบทความนี้จนจบก็เริ่มปลูกต้นไม้เองได้เลยที่บ้าน
โจ้ Rainforest
เรียนศิลปะการจัดดอกไม้ กับโจ้ Rainforest

สถานที่ปลูก

ภายในบ้าน สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดหรือตึกแถว ให้เลือกต้นไม้ที่สามารถปลูกได้ภายในตัวอาคาร ไม่ต้องโดนแสงแดดตลอด หรือเป็นต้นขนาดเล็กก็อาจจะเหมาะมากที่สุด อีกทั้งต้นไม้บางชนิดที่นิยมปลูกภายในบ้านยังสามารถช่วยกรองฝุ่นละอองและส่งเสริมอากาศที่บริสุทธิ์ได้อีกด้วย

ภายนอกบ้าน เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อที่สวนเป็นของตัวเอง สามารถเลือกปลูกต้นไม้ที่ชอบแดด ต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่และสูง ประโยชน์ของต้นไม้สูงคือ ช่วยกรองมลพิษอากาศและเป็นที่บังแสงแดดให้กับตัวบ้านได้ดี หรือถ้ามีพื้นที่เพียงพอ คุณก็สามารถทำการเพาะปลูกต้นไม้ที่ให้ลูกผลหรือใบที่สามารถนำมารับประทานได้

ชนิดต้นไม้

เมื่อคุณเลือกสถานที่ได้แล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องคำนึงถึงก็คือชนิดของต้นไม้ที่คุณอยากจะปลูก ซึ่งจะถูกแบ่งดังนี้ :
  • ไม้คลุมดิน : เป็นต้นไม้ชนิดที่มีขนาดเล็ก สูงจากพื้นดินโดยประมาณ 30 เซ็นติเมตร ทำหน้าที่ช่วยปกคลุมพื้นดินจากความร้อนหรือช่วยให้ดินไม่ถูกพัดไปกับน้ำเวลาฝนตก ตัวอย่างของไม้คลุมดินมี พลมญี่ปุ่น บลูฮาวาย หรือกระดุมเงินเป็นต้น
  • ไม้ล้มลุก : ถึงแม้จะมีคำนำหน้าว่า “ไม้” แต่จริง ๆ แล้วต้นไม้ชนิดนี้ไม่มีท่อนไม้เหมือต้นไม้ทั่วไป ไม้ล้มลุก หรือ ภาษาอังกฤษที่เรียกว่า “Herb” เป็นไม้ขนาดเล็กและเตี้ยที่มีอายุไขน้อย ซึ่งจะถูกแบ่งเป็นชนิด “ไม้ล้มลุกปีเดียว” “ไม้ล้มลุกสองปี” และ “ไม้ล้มลุกหลายปี” ตัวอย่างของไม้ชนิดนี้มี แครอท มันฝรั่ง หรือต้นมิ้นท์เป็นต้น
  • ไม้พุ่ม : ไม้พุ่มเป็นไม้ที่มีความสูงแตกต่างกันไปตามชนิด สามารถแยกได้เป็นสองพันธุ์หลักคือ “พุ่มเตี้ยและกลาง” ที่มีความสูงประมาณ 0.50 ถึง 1.50 เมตร และ “พุ่มสูง” ที่มีความสูงตั้งแต่ 1.80 เมตรไปจนถึง 2 เมตร ไม้พุ่มมักจะมีอายุไขหลายปีและนิยมใช้ในการตกแต่งสวนหรือรั้วบ้าน ตัวอย่างของไม้พุ่มคือ กุหลาบ ลิ้นมังกร พยับหมอก เฟื่องฟ้า
  • ไม้ยืนต้น : มีความสูง 2.40 เมตรขึ้นไปและโตได้เกิน 5 เมตร มีลำต้นที่ใหญ่และแข็งแรง มีอายุที่ยืนนาน เหมาะสำหรับปลูกเพื่อสร้างร่มเงาให้กับสวนหรือตัวบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ต้นกัลปพฤกษ์ ต้นจำปี ต้นมะฮอกกานี
  • ไม้เลื้อย : ตามชื่อเรียก “ไม้เลื้อย” เป็นไม้ที่ไม่สามารถทรงตัวเองได้ จึง “เลื้อย” ไปตามโครงสร้างต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ต้น ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตึกอาคาร เสา รูปปั้น ฯลฯ เหมาะสำหรับการใช้ตกแต่งสวนที่อยู่นอกบ้าน ตัวอย่างของไม้เลื้อยคือ ลดาวัลย์ เล็บมือนาง สร้อยเงินสร้อยทอง

ชนิดดิน

ชนิดของดิน
ดินทราย เป็นดินที่ประกอบไปด้วยหินเม็ดเล็กที่มีน้ำหนักเบา ไม่เหมาะแก่การนำมาปลูกต้นไม้เนื่องจากประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำและแร่ธาตุที่ต่ำ แต่ก็เป็นดินที่ระบายน้ำได้ดีเยี่ยม เหมาะกับต้นไม้อย่างกระบองเพชรหรือพืชทะเลทราย

ดินเหนียว เอกลักษณ์ของดินเหนียวคือดินที่อัดแน่นและเหนียวเมื่อโดนน้ำ แต่มีผิวที่แตกแห้งเมื่อขาดน้ำ สามารถกักเก็บน้ำได้ดี เหมาะสำหรับการปลูกพืชน้ำหรือการทำนาปลูกข้าวเป็นต้น

ดินร่วน คือการผสมผสานของดินทราย ดินเหนียว ตะกอน และซากพืชที่ลงตัว มีลักษณ์ที่จับตัวเป็นก้อนเมื่อแห้งและยืดหยุ่นเมื่อโดนน้ำ เป็นดินที่กักเก็บน้ำได้พอประมาณและระบายส่วนเกินออกได้อย่างดี ดินร่วนจึงเป็นชนิดดินที่ถูกเลือกใช้ในการเพาะปลูกมากที่สุด

ปุ๋ย

“ปุ๋ย” คือสารที่นักเพาะปลูกใส่ลงไปในดินเพื่อเสริมแร่ธาตุอาหารจำเป็นอย่างฟอสฟอรัส ไนโตรเจน และโพแทสเซียม ซึ่งการใช้ปุ๋ยจะส่งผลให้พืชที่เพาะปลูกเจริญเติบโตได้เร็ว สวยงาม และเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น ปุ๋ยจะถูกแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักดังนี้ :
  1. ปุ๋ยอินทรีย์ : ประกอบไปด้วยสารจากสิ่งที่มีชีวิตอย่างจุลินทรีย์ สัตว์ หรือพืช โดยใช้ขบวนการผลิตตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับการใช้เพื่อปรับสมดุลสภาพดินให้โปร่ง อากาศถ่ายเท และระบายน้ำได้ดียิ่งขึ้น ทำให้รากต้นไม้สามารถชอนไชหาธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปุ๋ยอินทรีย์จะถูกแบ่งเป็น 3 ชนิดหลัก 1) ปุ๋ยหมัก 2) ปุ๋ยคอก 3) ปุ๋ยพืชสด
  2. ปุ๋ยเคมี : ปุ๋ยเคมีเป็นผลผลิตจากการอุตสาหกรรมในโรงงานที่ใช้กระบวนการผลิตทางเคมี เมื่อโรยบนดินที่มีความชื้น ตัวเม็ดปุ๋ยจะละลายและแจกสารอาหารให้กับต้นไม้ ปุ๋ยเคมีจะมีอยู่ 2 ประเภทหลักก็คือ 1) แม่ปุ๋ยหรือปุ๋ยเดี่ยว 2) ปุ๋ยผสม
  3. ปุ๋ยชีวภาพ : ต่างจากการเสริมแร่ธาตุให้กับพืช ปุ๋ยชีวภาพทำหน้าที่ “สร้าง” ธาตุอาหารด้วยจุลินทรีย์ หรือทำการดัดแปลงสิ่งที่มีอยู่แล้วในดินให้กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อพืช

ทั้งนี้ การเลือกใช้ปุ๋ยก็ควรคำนึงถึงชนิดต้นไม้และชนิดดินควบคู่ไปด้วยกัน สามารถสอบถามและปรึกษากับร้านจำหน่ายต้นไม้โดยตรง

วิธีการดูแลต้นไม้

รดน้ำต้นไม้
และเมื่อคุณได้จัดต้นไม้ลงกระถางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายของการเพาะปลูกก็คือการหมั่นดูแลต้นไม้ของคุณให้งอกงาม
  • รดน้ำ : รดน้ำอย่างสม่ำเสมอหรือรดตามความจำเป็นของพืชแต่ละชนิด การรดน้ำที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียให้กับชนิดต้นไม้ที่ไม่ได้ต้องการน้ำมาก เช่นเดียวกัน การรดน้ำน้อยเกินไปสำหรับต้นไม้ที่ต้องการน้ำก็จะทำให้ต้นโตได้ไม่เต็มที่
  • แสงแดด : ศึกษาความต้องการของพืชแต่ละชนิด เพราะไม่ใช่ต้นไม้ทุกต้นที่จะชอบแสงแดดจ้าเสมอไป ต้นไม้บางชนิดสามารถโดนแดดได้ทั้งวัน บางชนิดโดนแดดได้แค่เป็นช่วง ๆ ส่วนบางชนิดกก็อาจจะไม่จำเป็นจะต้องโดนแสงแดดโดยตรง เพียงแค่มีแสงสว่างก็อาจจะเพียงพอ
  • วัชพืช / แมลง : หมั่นสำรวจต้นไม้ของคุณเป็นประจำเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติเช่นรอยกัดตามใบ สีของใบที่ผิดปกติ หรือแม้แต่การเจริญเติบโตที่ล่าช้า ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณของแมลงหรือวัชพืชที่กำลังทำร้ายต้นไม้ของคุณอยู่ สำหรับวัชพืชและแมลงที่มารบกวน คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์สารเคมีเพื่อฆ่าวัชพืชและแมลง หรือใช้ผลิตภัณฑ์ Organic ถ้ากังวลเรื่องสารเคมี

โจ้ Rainforest

เรียนรู้เทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานด้วยดอกไม้และศิลปะ
โจ้ Rainforest

บทส่งท้าย

จะเห็นได้ว่าการปลูกต้นไม้นั้นไม่ยากอย่างที่ทุกคนคิด แค่ทำความรู้จักกับชนิดพืช ชนิดดิน ชนิดปุ๋ย และการดูแลที่ถูกต้อง เพียงเท่านี้คุณก็จะมีสวนที่งดงามประจำบ้านของคุณ สำหรับใครที่ต้องการรู้เคล็ดลับการจัดดอกไม้แล้วล่ะก็ คุณสามารถเรียนกับฟลอริสมือ 1 ของประเทศไทย โจ้ Rainforest ได้แล้ววันนี้ที่ IkonClass

บทความล่าสุด

คอร์สเรียนของเรา