ฟุตบอลทีมชาติไทย กับเส้นทางสู่แชมป์ 16 สมัย

Sep 6 / IkonClass Staff
สำหรับคอกีฬาฟุตบอลไทยก็คงคุ้นเคยกับ “ฟุตบอลทีมชาติไทย” ไม่มากก็น้อย เพราะพวกเขาทำหน้าที่เป็นตัวแทนแห่งประเทศไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติ ในบทความนี้ IkonClass จะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้ของฟุตบอลทีมชาติไทยที่แฟนฟุตบอลไทยต้องรู้ !
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่
เรียนกับที่สุดของวงการ

กำเนิดฟุตบอลทีมชาติไทย

ฟุตบอลทีมชาติไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2458 โดยใช้ชื่อว่า “คณะฟุตบอลสำหรับชาติสยาม” ประกอบไปด้วยนักเตะ 11 คนแรกดังนี้ : 
  • ผู้รักษาประตู - อิน สถิตยวณิช
  • กองหลัง - แถม ประภาสะวัต, ต๋อ ศุกระศร, ภูหิน สถาวรวณิช
  • กองกลาง - ตาด เสตะกสิกร, กิมฮวด วณิชยจินดา
  • กองหน้า - หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร, ชอบ หังสสูต,โชติ ยูปานนท์, ศรีนวล มโนหรทัต และ จรูญ รัตโนดม

และได้มีการจัดการแข่งขันกับทีมสปอร์ตคลับฝ่ายยุโรปที่ประกอบไปด้วยนักเตะอังกฤษ การแข่งนี้จบที่คะแนน 2 ประตูต่อ 1 โดยมีทีมชาติสยามเป็นผู้ชนะ ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ผู้ชมเริ่มหันมาสนใจฟุตบอลทีมชาติไทยมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2459 ราชการที่ 6 ทรงก่อตั้ง “สมาคมฟุตบอลแห่งสยาม” และในปี พ.ศ. 2473 ทีมชาติสยามก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกกับทีมชาติทวีปอินโดจีน
ทีมฟุตบอลสยาม
ในช่วงปี พ.ศ. 2481 - 2482 ภายใต้การปกครองของ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ได้มีการเปลี่ยนชื่อประเทศและสัญชาติจาก “สยาม” มาเป็น “ไทย” ซึ่งชื่อของสมาคมก็ได้เปลี่ยนจาก “สมาคมฟุตบอลสยาม” เป็น “สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย” และได้ใช้ชื่อนี้ตั้งแต่นั้นมา

แข่งขันโอลิมปิก, ซีเกมส์ , คิงส์คัพ, เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ

ในฤดูร้อนของปี พ.ศ. 2499 ประเทศไทยได้มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกกีฬาฟุตบอล ณ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นำโดยผู้ฝึกสอน บุญชู สมุทรโคจร ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก (Single elimination) แต่ด้วยประสบการณ์และทักษะการเตะที่ไม่เพียงพอ ทำให้ฟุตบอลทีมชาติไทยพ่ายแพ้ต่อทีมชาติสหราชอาณาจักรด้วยคะแนน 0 ประตูต่อ 9 และตกรอบในทันทีที่เข้าแข่ง

ในช่วงปี พ.ศ. 2511 ประเทศไทยได้มีโอกาสเข้ารวมการแข่งขันโอลิมปิกอีกครั้งโดยมีพลเอก ประเทียบ เทศวิศาล เป็นผู้จัดการทีม แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ฟุตบอลทีมชาติไทยก็ยังไม่สามารถเอาชนะทีมชาติอื่นได้อย่างทีมชาจิบัลแกเรีย (แพ้ 0 - 7) แพ้ทีมชาติกัวเตมาลา (1 - 4) แพ้เช็กโกสโลวาเกีย (0 - 8) จนตกรอบในที่สุด และตั้งแต่นั้นมา ทีมชาติไทยก็ไม่ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโอลิมปิกอีกเลย

ในปี พ.ศ. 2508 บอลทีมชาติไทยก็ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวไทย ด้วยการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ (หรือที่เรียกว่า “กีฬาแหลมทอง” ในอดีต) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และหลังจากนั้นในช่วงปี พ.ศ. 2536 - 2550 ฟุตบอลทีมชาติไทยได้ครองตำแหน่งแชมป์ซีเกมส์ติดต่อกันถึง 8 สมัย จนถึงปัจจุบัน ทีมชาติไทยได้เป็นแชมป์ซีเกมส์ทั้งหมด 16 สมัย 

นอกจากนี้แล้ว ในการแข่งขันคิงส์คัพและเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ประเทศไทยยังได้เป็นผู้ครองตำแหน่งแชมป์มากที่สุด รวมเป็น 15 สมัยสำหรับคิงส์คัพ และ 7 สมัยสำหรับเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ

ทีมชาติไทยในยุคปัจจุบัน

ในปี พ.ศ. 2562 ฟุตบอลทีมชาติไทยได้แต่งตั้งอดีตนักเตะและผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่น “อากิระ นิชิโนะ” มาประจำตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติชุดใหญ่ และทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งผู้ฝึกสอน นิชิโนะ ก็ได้ทำหน้าที่จนถึงปี พ.ศ. 2564 ก่อนที่จะถูกปลดจากหน้าที่เนื่องจากผลงานที่ไม่เป็นไปตามคาดหมาย 

ในไม่ช้า ตำแหน่งผู้ฝึกสอนก็ถูกแทนที่โดย อาเลชังดรี ปอลกิง อดีตผู้ฝึกสอนในไทยลีก และตั้งแต่นั้นมา อาเลชังดรี ปอลกิง ก็ได้สร้างผลงานมากมายรวมไปถึงการครองแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในปี 2563 และ 2565 

เรียนกับที่สุดแห่งทุกวงการ

เรียนรู้ทุกเคล็ดลับและเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงของทุกวงการไทย
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่

บทส่งท้าย

และนี่ก็คือประวัติของฟุตบอลทีมชาติไทยฉบับสั้น ๆ ได้ใจความ ที่เต็มไปด้วยชัยชนะอันทรงเกียรติและบทเรียนอันล้ำค่า ทุกประสบการณ์ได้หล่อหลอมให้ทีมชาติไทยได้เป็นผู้ท้าชิงในทวีปเอเชียที่ไม่แพ้ชาติอื่นใด สำหรับสาระและเกร็ดความรู้ดี ๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ IkonClass

บทความล่าสุด

คอร์สเรียนของเรา