วิธีเก็บผลไม้สดให้อยู่นาน ไม่เละ ไม่ดำ

กล้วย

องุ่น

ทุเรียน

เรามาเริ่มกันที่วิธีเก็บผลไม้สดในตู้เย็น แน่นอนว่าผลไม้แช่เย็นของว่างที่ทานแล้วสดชื่นและยังอุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ปกติแล้ว ตู้เย็นไซส์มาตรฐานจะมีช่องเก็บผักและผลไม้ซึ่งเป็นช่องพลาสติกที่มีความระดับความชื้นที่ต่างจากส่วนอื่นของตู้เย็น สำหรับตู้เย็นบางรุ่น ช่องเก็บผักผลไม้จะมี Humidity Control หรือตัวควบคุมความชื้น ซึ่งหลักการของการควบคุมความชื้นโดยคร่าว ๆ คือ หากอากาศถ่ายเทได้ดี ระดับความชื้นจะต่ำ หากอากาศถ่ายเทได้น้อย ความชื้นจะสูง

ผลไม้ควรถูกเก็บไว้ในช่องความชื้นต่ำเพื่อคงความสด และป้องกันการเกิดเชื้อรา ในขณะที่ผักใบเขียวควรถูกเก็บในช่องความชื้นสูง เนื่องจากผักใบจะสูญเสียความชื้นได้ง่ายและเหี่ยวเฉาไว ผักและผลไม้ไม่ควรถูกเก็บในช่องเดียวกันเพราะผลไม้หลายชนิดเช่น แอปเปิ้ล กล้วย อโวคาโดและลูกพีช จะปล่อยก๊าซเอทิลีน (Ethylene) ตามธรรมชาติซึ่งไม่เป็นอันตราย ก็าซเอทิลีนไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่ก๊าซนี้จะเป็นตัวเร่งให้ผักผลไม้ชนิดอื่นเน่าเสียเร็วกว่าที่ควร

สำหรับตู้เย็นที่ไม่มีตัวควบคุมความชื้น เราสามารถเก็บผักใบเขียวไว้ในช่องเก็บผักได้ และแยกเก็บกลุ่มผักและผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีนไปเก็บอีกที่ หรือเก็บในภาชนะที่มีฝาปิด

ผลไม้ควรถูกเก็บทั้งลูกโดยไม่ปอกหรือหั่นก่อนเพราะเปลือกของผลไม้เป็นตัวกักเก็บความชื้นและความสดให้อยู่ภายในเนื้อ แต่เราก็สามารถเก็บผลไม้ที่หั่นแล้วในถุงซิปล็อคหรือกล่องที่มีฝาปิดเพื่อล็อคความชื้นได้

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่หาซื้อได้ในทุกฤดูกาลและเก็บในตู้เย็นได้นานถึง 6 สัปดาห์โดยที่ยังสดและกรอบอยู่ หรือหากจะเก็บไว้นอกตู้เย็นก็อยู่ได้นานเช่นกันเพียวแต่ควรเก็บในที่แห้งและหลบแสงแดด อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น แอปเปิ้ลเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีนตามธรรมชาติ เราจึงไม่ควรเก็บแอปเปิ้ลร่วมกับผักหรือผลไม้ชนิดอื่น 

คำว่า สตอเบอรี่ เป็นภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน วิธีเขียนที่ถูกต้องคือ “สตรอวเบอร์รี่” ซึ่งใกล้เคียงกับคำในภาษาอังกฤษ (strawberry) ไม่ว่าคุณจะเรียกว่า สตอเบอรี่ หรือ สตรอวเบอร์รี่ สิ่งหนึ่งที่คนไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งคือการล้างก่อนเก็บเข้าตู้เย็นเนื่องจากผลไม้จำพวกเบอร์รี่ (Berries) มีผิวบางและดูดความชื้นได้ง่าย การล้างก่อนเก็บจะทำให้ตัวเบอร์รี่เละและเน่าง่าย วิธีเก็บที่ดีที่สุดคือนำภาชนะที่มีฝาปิดมารองด้วยกระดาษอเนกประสงค์เพื่อซับความชื้น (paper towel หรือ kitchen towel) ก่อนใส่สตรอวเบอร์รี่ลงไป โดยคัดเอาผลที่เละหรือกำลังจะเน่าออกก่อน หรือจะใช้กระดาษซับความชื้นก่อนเก็บเข้าถุงซิปล็อคก็ได้

เกร็ดความรู้: ตามหลักพฤษศาสตร์แล้ว สตอวเบอร์รี่นั้นไม่ใช่เบอร์รี่แท้ เพราะคำนิยามของเบอร์รี่คือผลที่เกิดจากรังไข่ของดอกเพศเมียที่มีเมล็ดหลายเมล็ดในรังเดียว ผลหรือเนื้อของสตรอวเบอร์รี่เกิดมาจากฐานรองดอกเช่นเดียวกับแอปเปิ้ล แต่โดยทั่วไป เราจัดสตอวเบอร์รี่เป็นเบอร์รี่เพราะรสชาติเปรี้ยวอมหวานและเนื้อสัมผัสที่นิ่ม

กล้วยที่ยังไม่สุกงอมควรถูกเก็บในที่แห้งในอุณหภูมิห้อง และกล้วยที่สุกแล้วสามารถเก็บในตู้เย็นเพื่อชะลอการเน่าเสีย ถึงผิวของกล้วยเปลือกจะเป็นสีน้ำตาลหลังจากถูกเก็บในตู้เย็นแต่เนื้อของในจะยังสุกงอมดีและรับประทานได้ กล้วยก็เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ปล่อยก๊าซเอทิลีน ฉะนั้นกล้วยที่สุกก่อนจะเร่งให้กล้วยที่ยังไม่สุกที่สุกเร็วมากขึ้น แต่ก็จะทำให้กล้วยที่สุกงอมแล้วเน่าเสียไว

องุ่นจัดเป็นเบอร์รี่แต่เป็นเบอร์รี่ที่มีเปลือกเช่นเดียวกับแตงกวา มะเขือม่วง และมะเขือเทศ เปลือกขององุ่นทำให้ตัวองุ่นไม่ต้องการความชื้นมากเหมือนสตรอวเบอร์รี่ ฉะนั้นวิธีการเก็บที่ดีที่สุดคือใส่ภาชนะที่ไม่มีฝาปิด หรือใส่ถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศก่อนนำเข้าตู้เย็น และล้างก่อนรับประทานเท่านั้น 

ทุเรียนถือเป็นราชาผลไม้ของไทยที่นักท่องเที่ยวชาวต่างก็อยากมาจะลิ้มลอง สำหรับคนที่ชอบกินทุเรียนจะรู้ดีว่า ทุเรียนที่ถูกแกะออกมาแล้วจะเละง่ายมาก ซึ่งข่าวดีก็คือการเก็บทุเรียนไว้กินนาน ๆ นั้นทำได้ไม่ยากเลย เพียงห่อใช้กระดาษรองอบห่อพูทุเรียนไว้ วางพูทุเรียนที่ห่อแล้วลงในภาชนะที่มีฝาปิด วางกระดาษอเนกประสงค์บนทุเรียนก่อนผิดฝาให้สนิท แล้วเก็บใส่ตู้เย็น เปลี่ยนกระดาษเมื่อเห็นว่ากระดาษแฉะ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเก็บทุเรียนไว้ได้นานและที่สำคัญยังไม่ทำให้ตู้เย็นมีกลิ่นอีกด้วย

หลังจากอ่านบทความนี้แล้วทาง IkonClass หวังว่าคุณจะนำเทคนิคการเก็บผลไม้สดเหล่านี้ไปใช้ และบอกต่อให้คนรัก หรือคนในครอบครัวได้ลองทำตามบ้าง และถ้าคุณเป็นคนรักการกิน รักการทำอาหาร อย่าพลาดคลาสสอนทำอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น ที่สอนโดย เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร หรือเชฟต้น Top Chef ที่ IkonClass เข้าชมบทเรียนเแรกฟรี !