5 วิธีเก็บดอกไม้สดให้อยู่ได้ยาวนาน พร้อมวิธีทำดอกไม้แห้ง

Jan 13 / IkonClass Staff
ช่อดอกไม้เป็นหนึ่งในของขวัญที่แสดงถึงความยินดี ความรักและความเสียใจ สำหรับใครที่ได้รับช่อดอกไม้น่ารัก ๆ เป็นของขวัญเนื่องในวันพิเศษ และอยากให้ดอกไม้อยู่กับคุณไปอีกนาน IkonClass มี 5 วิธีเก็บดอกไม้สดให้อยู่ได้ยาวนานเป็นพิเศษมาฝากกัน เพียงแค่ต้องมีแจกันสำหรับใส่ดอกไม้ และกรรไกรเท่านั้นเอง

จะมีวิธีใดบ้างที่ช่วยยืดอายุดอกไม้ในแจกันให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น เราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่
เรียนศิลปะการจัดดอกไม้ กับโจ้ Rainforest

1. ตัดก้านดอกไม้ในมุมเฉียง 45 องศา

เมื่อนำช่อดอกไม้กลับมาที่บ้านแล้ว สิ่งแรกที่คุณควรต้องทำเลยก็คือ แกะกระดาษและพลาสติกห่อดอกไม้ออกให้หมด หลังจากนั้นให้ทำการตัดก้านดอกไม้แต่ละก้านในมุม 45 องศา โดยให้มีความยาวกว่าภาชนะที่เตรียมมาใส่ 

การตัดก้านดอกไม้หรือใบไม้ให้เป็นมุม 45 องศานั้น เป็นการเพิ่มพื้นที่ให้กับก้านดอกไม้ในการดูดซึมน้ำ และเมื่อตัดใหม่ จะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ทำหน้าที่ดูดน้ำนั้นทำงานได้ดีขึ้น หากมีดอกไม้ที่ก้านใหญ่หรือมีความแข็ง สามารถตัดก้านออกให้เป็นแฉก ๆ ได้อีก เพื่อเพิ่มพื้นที่การดูดซึมน้ำให้มากขึ้น และแนะนำว่าควรตัดก้านดอกไม้ทุก ๆ 3-4 วัน

2. เปลี่ยนน้ำในแจกันบ่อย ๆ

ทุก ๆ 2 วัน แนะนำให้คุณทำการเปลี่ยนน้ำที่อยู่ในภาชนะใส่ดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นแจกัน โหลแก้วหรืออะไรก็ตาม เพราะน้ำเปล่าที่สะอาดนั้นมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดแบคทีเรียที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากก้านดอกไม้ที่เริ่มมีการเน่า เนื้อเยื่อต่าง ๆ หรือพวกใบไม้

3. ตัดใบไม้ออกให้หมด อย่าเอาใบจุ่มน้ำ

รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วส่วนที่ทำให้น้ำในแจกันเน่าเสียได้ง่ายก็คือใบไม้ตามก้านของดอกไม้นั่นเอง ดังนั้นหากช่อดอกไม้ที่คุณได้รับมาแต่แรก เป็นช่อที่มีใบไม้อยู่ตามก้าน ก่อนที่คุณจะนำดอกไม้เหล่านั้นปักลงในแจกัน แนะนำว่านอกจากวิธีตัดดอกไม้สดให้เฉียงแล้ว ก็ควรดึงใบที่อยู่บนก้านออกด้วยเช่นกัน เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย

4. เลือกที่วางแจกันให้เหมาะสม

ตำแหน่งในการวางแจกันช่อดอกไม้สดก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะดอกไม้ส่วนใหญ่ที่ถูกตัดออกมาจากต้นนั้นจะไม่ชอบอากาศร้อน ไม่ชอบแสงแดดโดยตรง ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการให้แจกันดอกไม้สดของคุณอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น ก็ควรวางแจกันอยู่ในบริเวณที่มีแดดอ่อน ๆ ไม่โดนแดดจัดจนเกินไป 

อีกหนึ่งวิธีเก็บดอกไม้สดให้ได้นาน ๆ ก็คือ การนำแจกันดอกไม้สดเข้าไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้สัก 1 คืน แล้วนำออกมาตั้งไว้ที่บริเวณเดิมก็ช่วยได้เช่นกัน

5. ให้อาหารดอกไม้

ถึงแม้ว่าดอกไม้ที่คุณได้มานั้นจะถูกตัดออกมาจากต้นแล้ว แต่พวกมันก็ยังคงต้องการพลังงานในการเบ่งบานอยู่เหมือนเดิม หากคุณอยากให้ดอกไม้สดสามารถอยู่ได้นาน ๆ คุณควรเติมน้ำหวานต่าง ๆ ลงไปในน้ำแช่ดอกไม้ด้วย อย่างเช่นน้ำหวานและโซดา ในอัตราส่วน 1:4 หรือจะเลือกใช้เป็นน้ำตาลผสมกับแอลกอฮอล์สำหรับดื่ม ก็จะสามารถช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี

อยากได้ดอกไม้ที่เก็บไว้ได้นาน ๆ เลือกดอกอะไรดี? 

สำหรับใครที่รู้อยู่แล้วว่าต้องการเก็บดอกไม้ให้ได้นาน ๆ ก็อาจจะต้องเลือกดอกไม้ให้ถูกประเภทตั้งแต่เริ่มต้นที่สั่งมาเป็นช่อดอกไม้สดกันเลย เนื่องจากมีดอกไม้หลากหลายชนิดมาก ๆ ที่ถึงแม้ว่าจะแห้งแล้ว ก็ยังคงสภาพที่สวยงามไว้ได้โดยไม่ต้องดูแลมากมาย ซึ่งดอกไม้ประเภทนี้จะยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้
  • ดอกคัตเตอร์ เมื่อแห้งแล้วจะสามารถเก็บไว้ตกแต่งบ้านได้ ย้อมสีได้
  • ดอกสแตติส เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่ถูกนำมาจัดช่อบ่อยมาก ๆ เมื่อปล่อยให้แห้งแล้วก็ยังคงสภาพและสีสันไว้ได้เหมือนเดิม
  • ดอกเบญจมาศ หรือดอกมัม เป็นดอกไม้ที่แห้งแล้วยังคงรูปทรงและสีสันไว้ได้ดี
  • ดอกกุหลาบ หาซื้อได้ง่าย ใช้ได้หลายโอกาส
  • ไฮเดรนเยีย มีหลากหลายสีสัน มีรูปทรงสวยงาม
นอกจากนี้ก็ยังมีดอกไม้อีกหลายประเภทที่สามารถเก็บไว้ได้นาน เอาเป็นว่าสามารถเลือกซื้อกันได้ตามที่ต้องการเลยล่ะ

วิธีเปลี่ยนดอกไม้สดให้กลายเป็นดอกไม้แห้ง 

สำหรับใครที่ใช้วิธีเก็บดอกไม้สดตามด้านบนจนดอกไม้เริ่มจะไม่ไหวแล้ว แนะนำว่าถ้าหากอยากหาวิธีเก็บดอกไม้เหล่านั้นให้นานยิ่งขึ้น ควรทำให้ดอกไม้แห้งอย่างถูกวิธี และช่วยทำให้คุณสามารถเก็บดอกไม้ได้ยาวนานขึ้น อย่างเช่นวิธีเหล่านี้

ใช้การห้อยกลับหัวจนกว่าจะแห้ง

วิธีที่เบสิคสุด ๆ และยังคงรูปทรงของดอกไม้สดไม่ได้ดีก็คือการห้องช่อดอกไม้แบบกลับหัว เอาด้านดอกไม้ทิ่มลงพื้น โดยควรปล่อยเอาไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดเข้าถึง มีอากาศถ่ายเทได้ดี หลังจากนั้นแล้วดอกไม้จะต่อย ๆ แห้งตัวลง หลังจากนั้นจึงสามารถนำมาประดับตกแต่งบ้าน หรือเก็บใส่ในขวดโหลตามต้องการได้เลย

ไมโครเวฟ ช่วยทำดอกไม้แห้ง

วิธีต่อมาที่ช่วยเปลี่ยนดอกไม้สดให้กลายเป็นดอกไม้แห้งได้อย่างรวดเร็วก็คือ “ไมโครเวฟ” นั่นเอง ซึ่งวิธีทำดอกไม้แห้งแบบนี้ก็ถือว่าง่ายและใช้เวลาน้อย สิ่งที่คุณจะต้องเตรียมก็คือสารดูดความชื้น ดอกไม้ และไมโครเวฟ โดยสามารถนำดอกไม้ที่ตัดก้านสั้น ๆ กำลังดี ลงไปใส่ในภาชนะ เทให้สารดูดความชื้นท่วมดอกไม้ และตั้งเวลาประมาณ 1-2 นาที เพียงเท่านี้ก็จะได้ดอกไม้แห้งอย่างรวดเร็ว 

ทับดอกไม้ในหนังสือ

สำหรับใครที่มองหาวิธีเปลี่ยนดอกไม้สดให้กลายเป็นดอกไม้แห้งแบบที่ประหยัดงบที่สุด ก็ขอแนะนำให้ใช้วิธีการนำดอกไม้สดไปสอดไว้ในหนังสือเล่มหนา ๆ หรือใช้กล่องที่เรียบ ๆ และมีความหนักวางทับไว้สัก 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะได้ดอกไม้ที่มีกลีบสีสันสวยงาม สามารถนำไปเก็บต่อได้ แนะนำว่าวิธีนี้ควรใช้กับดอกไม้ที่มีความบาง กลีบดอกไม้เยอะ จะได้ดอกไม้แห้งที่น่ารักถูกใจ

สารดูดความชื้น หรือซิลิกา

สุดท้ายนี้ก็คือการใช้สารดูดความชื้นเพื่อทำดอกไม้แห้ง ข้อดีของการใช้สารดูดความชื้นก็คือ สามารถคงสภาพของดอกไม้ไว้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงรูปทรงและสีสัน ข้อแนะนำก็คือควรเลือกซื้อสารดูดความชื้นหรือซิลิกาที่มีเม็ดเล็ก ละเอียด เพราะสามารถแทรกเข้าไปตามซอกของดอกไม้และกลีบได้มากกว่า ทำให้ดอกไม้แห้งที่ได้มีความสวยมากกว่านั่นเอง ข้อเสียก็คืออาจจะต้องใช้เวลาสูงถึง 2 สัปดาห์ กว่าจะได้ดอกไม้แห้งที่นำมาใช้งานต่อได้

โจ้ Rainforest

เรียนรู้เทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานด้วยดอกไม้และศิลปะ
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่

สรุปสาระสำคัญ

สำหรับใครที่ชื่นชอบดอกไม้สด และอยากเปลี่ยนช่อดอกไม้ให้กลายเป็นแจกันดอกไม้สดในบ้าน ก็อย่าลืมตัดก้าน เปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ หากเห็นว่าดอกไม้ใกล้หมดอายุการใช้งานแล้ว อยากจะหาวิธีเก็บดอกไม้ในรูปแบบของดอกไม้แห้ง ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีเช่นกัน

สำหรับใครที่มองหาไอเดียดี ๆ ในการใช้ดอกไม้สดและดอกไม้แห้งในชีวิตประจำวัน รวมถึงสร้างเป็นอาชีพ ก็สามารถลงทะเบียนเรียนกับ โจ้ Rainforest ได้แล้ววันนี้ กับคลาสสอนใช้ดอกไม้และศิลปะ

บทความล่าสุด

คอร์สเรียนของเรา