วิธีทำผลไม้อบแห้งสูตรง่าย ใคร ๆ ก็ทำเองได้ที่บ้าน

May 26 / IkonClass Staff
“ผลไม้อบแห้ง” เป็นอาหารทานเล่นยอดนิยมของคนไทย ซึ่งเรามักจะนำผลไม้นานาชนิดเช่น ทุเรียน มะม่วง ฝรั่ง ไปอบเพื่อถนอมอาหารและยืดอายุให้ผลไม้เหล่านั้นสามารถถูกเก็บไว้ได้นานขึ้น ผลไม้แห้งยังนิยมนำไปรับประทานคู่กับของหวานอย่างไอศกรีมหรือโยเกิร์ต ในบทความนี้ ทาง IkonClass จะมานำเสนอวิธีทำผลไม้อบแห้งที่คุณก็สามารถทำเองได้ที่บ้าน จะใช้เตาอบหรือแสงแดดจากธรรมชาติ คุณก็สามารถทำผลไม้อบแห้งได้ด้วยตัวเอง !
เชฟต้น-ธิติฏฐ์กับมุมมองต่ออาหารไทยที่แตกต่างไปจากเดิม | IkonClass
เรียนทำอาหารไทยกับ
เชฟมิชลิน

ทำไมต้องอบแห้ง ?

ผลไม้อบแห้งเป็นเคล็ดลับของการเก็บถนอมผลไม้ที่มีตั้งแต่ปี 1500 ก่อนคริสต์ศักราช (1500 BC) ซึ่งประกอบไปด้วยการนำผลไม้สุกไปตากกับแสงแดดจนเพื่อไล่ความชื้น ทำให้ผลไม้อบแห้งสามารถถูกกักเก็บได้นานและให้รสชาติที่หวาน ชาวตะวันออกกลางจะนิยมนำองุ่น อินทผาลัม มะเดื่อ มาทำเป็นผลไม้อบแห้ง แต่สำหรับชาวไทย เราจะนิยมใช้สับปะรด มะละกอ ทุเรียน กล้วย มะม่วง ขนุน และผลไม้ท้องถิ่นมาอบแห้ง แต่คุณก็สามารถนำผลไม้อย่างแอปเปิล สตรอว์เบอร์รี่ เชอร์รี่ มาอบแห้งได้เช่นกัน

วิธีทำผลไม้อบแห้ง

สำหรับคนที่ไม่มีเตาอบ ไม่ต้องห่วง ! ด้วยอากาศที่ร้อนและอบอ้าวของประเทศไทย ทำให้การทำผลไม้อบแห้งเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับคนที่ไม่มีเตาอบ แต่สำหรับใครที่มีเตาอบอยู่แล้ว คุณสามารถนำเตาอบนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ และนี่คือขั้นตอนเบื้องต้นที่ทุกคนควรทำตามไม่ว่าจะใช้แสงแดดหรือเตาอบ :
  1. นำผลไม้สุกที่ไม่มีรอยช้ำหรือจุดที่เน่าเสียมาล้างด้วยน้ำเย็นเพื่อขจัดสิ่งสกปรก
  2. ทำการปอกเปลือกและนำเมล็ดออก ระวังอย่าให้ผลไม้เกิดรอยช้ำ
  3. มาหั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ขนาดเท่า ๆ กันเพื่อให้ผลไม้แห้งพร้อมกันเวลานำไปตากแดดหรืออบ
  4. นำผลไม้ที่หั่นแล้วไปแช่ในส่วนผสมน้ำเลมอนเป็นเวลา 10 นาที (อัตราส่วนน้ำเลมอน 1 ถ้วยต่อน้ำเปล่า 1 ถ้วย) เพื่อป้องกันไม่ให้ผลไม้กลายเป็นสีน้ำตาลจากอากาศ หลังจากนั้นใช้ทิชชูซับน้ำและปล่อยให้ผลไม้แห้งเอง
  5. เลือกขนาดภาชนะตามจำนวนชิ้นของผลไม้ ลองตัวถาดด้วยกระดาษรองอบหรือผ้าขาวบาง และเรียงผลไม้ลงบนถาดโดยที่เว้นระยะห่างระหว่างชิ้นเพียงเล็กน้อย

สำหรับการใช้แสงแดด

ให้นำผลไม้ที่เรียงบนถาดไปตากแดดประมาณ 2-4 วัน (ระยะเวลาการตากขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้) แนะนำให้ใช้มุ้งอาหารหรือกระด้งมุ้งเพื่อป้องกันไม่ให้แมลงวัน ผึ้ง หรือแมลงมาตอมกินอาหาร ระหว่างช่วงการคืนหรือตอนที่ฝนตก ให้นำถาดผลไม้ตั้งไว้ในที่แห้งเพื่อไม่ให้ผลไม้เกิดความชื้น

สำหรับการใช้เตาอบ

วอร์มเตาอบ (Preheat) ที่อุณหภูมิ 200 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 93 องศาเซลเซียส เมื่อเตาอบร้องเตือนอุณหภูมิที่ตั้งไว้ ให้นำถาดผลไม้ไปใส่ในเตาอบ สำหรับเตาอบที่ไม่มีพัดลมช่วยระบายอากาศ ให้ทำการเปิดฝาประตูเตาอบเป็นระยะเพื่อระบายความชื้นออก ระยะเวลาของการอบจะใช้เวลาประมาณ 2-8 ชั่วโมงตามชนิดของผลไม้ที่เลือก

สำหรับคนที่สงสัยว่าควรเลือกผลไม้ยังไงและต้องตากแห้งนานเท่าไหร่ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ด้านล่าง :
  • กล้วย : เลือกกล้วยที่สุกแต่ยังมีความเฟิร์มแน่น ตัดสไลด์บาง 1/8 นิ้ว หรือประมาณ 0.3 เซนติเมตร เมื่ออบแห้งจนได้ที่ เนื้อกล้วยจะมีความแข็งและผิวสัมผัสที่คล้ายหนัง
  • แอปเปิล : ตัดสไลด์บาง 1/8 นิ้ว (0.3 เซนติเมตร) หรือ 1/4 นิ้ว (0.6 เซนติเมตร) เมื่ออบแห้งจนได้ที่ เนื้อแอปเปิลจะมีสัมผัสที่นิ่ม บิดเบี้ยวเล็กน้อยและปราศจากความชื้น
  • องุ่น : เลือกสายพันธุ์องุ่นที่ไม่มีเม็ดและทำการดึงก้านองุ่นออก ในกรณีที่ผ่าครึ่ง ทำความสะอาดด้วยส่วนผสมน้ำเลมอน ในกรณีที่ไม่ผ่าและอบทั้งชิ้น ให้นำองุ่นไปแช่น้ำร้อนประมาณ 30 วินาทีเพื่อคลายความแข็งของผิวเปลือก ง่ายแก่การระบายความชื้นตอนอบแห้ง ก่อนจะนำไปอบ อย่าลืมซับน้ำออกจากองุ่นให้แห้ง เนื้อองุ่นที่อบแห้งจะมีสัมผัสนิ่ม มีผิวสัมผัสที่คล้ายหนัง และปราศจากความชื้น
  • ผลไม้กลุ่มเบอร์รี่ : ไม่ว่าจะอบแห้งแบบผ่าครึ่งหรือทั้งชิ้น สามารถทำตามวิธีเตรียมองุ่นได้เช่นกัน เมื่ออบแห้งจนได้ที่ ผิวสัมผัสของเบอร์รี่จะเปลี่ยนจากหนุ่มเป็นแข็ง

วิธีเก็บดูแลผลไม้อบแห้ง

การอบแห้งผลไม้ไม่ได้จบแค่ที่ขั้นตอนการอบ แต่ยังมีขั้นตอนที่คุณต้องทำตามเพื่อยืดอายุการเก็บของมัน :
  1. รีดความชื้นที่เหลือ ถึงแม้ว่าเราจะอบแห้งจนได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการแล้ว แต่ก็จะมีบางชิ้นที่ยังมีความชื้นอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ให้นำผลไม้อบแห้งที่เย็นแล้วมาใส่จานหรือโหลโดยไม่อัดแน่นจนเกินไป จากนั้นให้ทำการปิดฝาและปล่อยทิ้งไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิอุ่นเล็กน้อยประมาณ 4-10 วัน ทำการเขย่าภาชนะเพื่อไม่ให้ชิ้นผลไม้ติดกัน ถ้าสังเกตเห็นไอน้ำในภาชนะหรือตัวผลไม้ ให้นำผลไม้ไปใส่ถาดและอบแห้ง จากนั้นให้ทำขั้นตอนนี้ซ้ำจนกว่าความชื้นของผลไม้จะออกจนหมดหรือเหลือน้อยมาก ๆ
  2. ฆ่าเชื้อโรค ผลไม้ที่ถูกแมลงตอมไม่ว่าจะก่อนหรือหลังการอบแห้ง ต้องถูกขจัดเชื้อโรคอย่างถูกวิธี ซึ่งคุณสามารถใช้วิธีการแช่แข็ง โดยการนำผลไม้ไปใส่ถุงซิปล็อคหรือกล่องซีลและแช่ช่องแช่แข็งประมาณ 48 ชั่วโมง หรืออีกวิธีก็คือ การอบซ้ำที่อุณหภูมิ 150 องศาฟาเรนไฮต์ (65 องศาเซลเซียส) ระวังอย่าให้ไหม้
  3. จัดเก็บ ให้เลือกภาชนะที่แห้งและมีคุณสมบัติป้องกันความชื้นได้ดี จัดเก็บภาชนะในที่แห้งและหลบแสงแดด ผลไม้อบแห้งที่ถูกจัดเก็บอย่างถูกวิธีจะมีอายุการเก็บอยู่ที่ 6-12 เดือน

เชฟต้น
สอนการทำอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น

เรียนรู้เทคนิคการทำอาหารไทย จากเชฟระดับมิชลิน
เชฟต้น-ธิติฏฐ์กับมุมมองต่ออาหารไทยที่แตกต่างไปจากเดิม | IkonClass

บทส่งท้าย

เพียงแค่คุณทำตามวิธีของทาง IkonClass คุณก็จะมีผลไม้อบแห้งติดบ้านโดยที่ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตอีกต่อไป ซึ่งคุณสามารถทานเป็นของว่างก็ดี หรือจะนำไปประกอบในการทำขนมพวกเบเกอรี่ก็ได้ และถ้าคุณชื่นชอบการกินและทำอาหาร ลองมาเรียนคลาสสอนทำอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นกับ เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เชฟระดับมิชลินที่ IkonClass ได้เลย

บทความล่าสุด

บทเรียนของเรา