สารบัญ
ประวัติมวยไทย
ต่างจากมวยสากลที่ใช้เพียงแค่หมัดหรือเทควันโดที่ใช้เพียงแค่ขา มวยไทยเป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่ใช้เกือบทุกส่วนของร่างกาย “นวอาวุธ” ของมวยไทยหรืออาวุธทั้งเก้า ประกอบไปด้วย สองมือ, สองเท้า, สองเข่า, สองศอก และศีรษะ รวมกันเป็นอาวุธประจำกายนักสู้ไทย ในการประลอง นักสู้จะต้องรู้จักทั้งการรุกและการป้องกันที่ถูกวิธี รวมไปถึงการใช้ท่าทาง เทคนิค ในการโจมตีจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ เพราะฉะนั้นมวยไทยจึงไม่ใช่ศิลปะที่เน้นพละกำลังเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องอาศัยไหวพริบในการจู่โจมด้วย
แม่ไม้มวยไทย
ลูกไม้มวยไทย
ศิลปะมวยไทยประจำภาค
ภาคเหนือ : ”มวยท่าเสา” เป็นมวยของทางภาคเหนือที่เน้นความเร็วและพละกำลัง ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามวยท่าเสากำเนิดมาจากไหน แต่ครูมวยคนแรกที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คือ ครูเมฆ ซึ่งเป็นครูของนายทองดีหรือพระยาพิชัยดาบหัก เอกลักษณ์ของมวยท่าเสาคือการจดมวยกว้างและทิ้งน้ำหนักตัวไว้ด้านหลัง ทำให้สามารถออกมวยได้ไกลและรวดเร็ว
กระบวนท่าของมวยท่าเสาประกอบไปด้วยการชก 15 ไม้ การเตะ 10 ไม้ การถีบ 10 ไม้ การตีเข่า 10 ไม้ และการศอก 10 ไม้ ส่วนในเรื่องของระเบียบประเพณีของมวยไทยสายท่าเสาจะต้องมีการรำไหว้ครูก่อนชกทุกครั้ง
ภาคกลาง : เมื่อพูดถึงภาคกลางก็ต้องพูดถึง “มวยลพบุรี” ที่ขึ้นชื่อเรื่องลูกล่อลูกชน เน้นการสลับระรุก-รับด้วยกลลวงและการเคลื่อนที่ว่องไวอยู่ตลอดเวลา
มวยไทยลพบุรีมีด้วยกัน 16 กระบวนท่าที่เลียนแบบท่าทางของสัตว์ต่างที่อยู่ในเมืองลพบุรี มวยไทยสายลพบุรีถูกนับว่าเป็นมวยท้องถิ่นที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย มีอายุถึง 1,300 ปี
ภาคอีสาน : ในทางภาคอีสาน “มวยโคราช” ถือว่าเป็นมวยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยเอกลักษณ์การออกหมัดที่กว้างและหนัก ทำให้มวยโคราชที่มีฉายาว่า “หมัดเหวี่ยงควาย”
การฝึกมวยไทยโคราชประกอบไปด้วยพิธียกครู การย่างสามขุมอยู่กับที่ 5 ท่า แบบเคลื่อนที่ 5 ท่า การฝึกลูกไม้แก้ทางมวย 11 ท่า ฝึกแม่ไม้สำคัญ 5 ท่า และท่าแม่ไม้โบราณ 21 ท่า
ภาคใต้ : “มวยไชยา” จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นมวยที่เน้นการป้องกันตัวแบบ “ป้อง ปัด ปิด เปิด” และการจู่โจมแบบ “ทุ่ม ทับ จับ หัก” พร้อมกับการใช้กระบวนท่า 7 ท่า ได้แก่ ปั้นหมัด พันแขน พันหมัด กระโดดตบศอก พันหมัดพลิกเหลี่ยม เต้นแร้งเต้นกา และย่างสามขุม
กระบวนท่าของมวยท่าเสาประกอบไปด้วยการชก 15 ไม้ การเตะ 10 ไม้ การถีบ 10 ไม้ การตีเข่า 10 ไม้ และการศอก 10 ไม้ ส่วนในเรื่องของระเบียบประเพณีของมวยไทยสายท่าเสาจะต้องมีการรำไหว้ครูก่อนชกทุกครั้ง
ภาคกลาง : เมื่อพูดถึงภาคกลางก็ต้องพูดถึง “มวยลพบุรี” ที่ขึ้นชื่อเรื่องลูกล่อลูกชน เน้นการสลับระรุก-รับด้วยกลลวงและการเคลื่อนที่ว่องไวอยู่ตลอดเวลา
มวยไทยลพบุรีมีด้วยกัน 16 กระบวนท่าที่เลียนแบบท่าทางของสัตว์ต่างที่อยู่ในเมืองลพบุรี มวยไทยสายลพบุรีถูกนับว่าเป็นมวยท้องถิ่นที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย มีอายุถึง 1,300 ปี
ภาคอีสาน : ในทางภาคอีสาน “มวยโคราช” ถือว่าเป็นมวยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยเอกลักษณ์การออกหมัดที่กว้างและหนัก ทำให้มวยโคราชที่มีฉายาว่า “หมัดเหวี่ยงควาย”
การฝึกมวยไทยโคราชประกอบไปด้วยพิธียกครู การย่างสามขุมอยู่กับที่ 5 ท่า แบบเคลื่อนที่ 5 ท่า การฝึกลูกไม้แก้ทางมวย 11 ท่า ฝึกแม่ไม้สำคัญ 5 ท่า และท่าแม่ไม้โบราณ 21 ท่า
ภาคใต้ : “มวยไชยา” จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นมวยที่เน้นการป้องกันตัวแบบ “ป้อง ปัด ปิด เปิด” และการจู่โจมแบบ “ทุ่ม ทับ จับ หัก” พร้อมกับการใช้กระบวนท่า 7 ท่า ได้แก่ ปั้นหมัด พันแขน พันหมัด กระโดดตบศอก พันหมัดพลิกเหลี่ยม เต้นแร้งเต้นกา และย่างสามขุม
มวยไทยในแต่ละยุคสมัย
สมัยกรุงสุโขทัย
ในช่วงปี พ.ศ. 1781 - 1921 หรือสมัยกรุงสุโขทัย เป็นช่วงที่มีการทำสงครามเพื่อแย่งชิงอาณานิคมอยู่บ่อยครั้ง มวยไทยจึงเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ถูกเผยแพร่และฝึกซ้อมในหมู่กษัตริย์และชายไทยที่ต้องเข้ารับราชการทหาร มวยไทยถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายและความเข้มแข็งทางจิตใจก่อนการรบ ทั้งนี้นักรบในยุคสมัยสุโขทัยยังเชี่ยวชาญในการใช้ธนู หอก ดาบ มีด โล่ อีกด้วย
การเรียนมวยไทยในยุคสุโขทัยจะถูกสอนทั้งในราชสำนักสำหรับกษัตริย์ ส่วนบุคคลธรรมดาก็จะเรียนมวยไทยจากตามวัดโดยมีพระสงฆ์หรือครูมวยเป็นผู้ฝึกสอน
การเรียนมวยไทยในยุคสุโขทัยจะถูกสอนทั้งในราชสำนักสำหรับกษัตริย์ ส่วนบุคคลธรรมดาก็จะเรียนมวยไทยจากตามวัดโดยมีพระสงฆ์หรือครูมวยเป็นผู้ฝึกสอน