6 ขั้นตอนการแต่งหน้าที่ถูกต้อง ทาอะไรก่อนหลังยังไง

บทส่งท้าย

ครีมกันแดด ลงตอนไหน?

เนื้อครีมของครีมกันแดดเป็นเนื้อที่ค่อนข้างหนัก ซึ่งควรจะลงหลังจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดอื่น การลงครีมกันแดดก่อน สกินแคร์จะซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้ไม่เต็มที่

Tips: หากต้องรีบแต่งหน้าในตอนเช้า เราสามารถเตรียมผิวไว้ได้ตั้งแต่คืนก่อนหน้านั้น โดยบำรุงด้วยสกินแคร์ก่อนนอน และล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าตอนเช้า แค่นี้ผิวหน้าก็พร้อมที่จะลงเครื่องสำอางแล้ว

หลายครั้งเรามักจะเห็น การลองเฉดรองพื้นโดยการเทียบสีกับท้องแขน หรือหลังมือ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ ลองกับใบหน้าของตัวเอง ป้ายรองพื้นลงที่แก้ม และเทียบดูว่าสีที่เลือก กลมกลืนกับผิวหน้าหรือไม่

รองพื้นเป็นตัวปรับสีผิวเนียนเท่ากันทั้งใบหน้า แต่คอนซีลเลอร์เป็นตัวปรับสีเฉพาะจุด สำหรับจุดที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ เช่น รอยแผลเป็นจากสิว ข้อแนะนำของเราคือ ลงรองพื้นก่อน และตามเก็บด้วยคอนซีลเลอร์ที่ละจุด การลงคอนซีลเลอร์ก่อน จะทำให้ตัวคอนซีลเลอร์ถูกเกลี่ยออกจากจุดที่เราต้องการที่ลงรองพื้น

ทุกคนคงได้เคยได้ยินคำพูดที่ว่า คิ้วคือมงกุฎของใบหน้า และ ตาคือหน้าต่างของหัวใจ คิ้วและตา นอกจากจะเป็นตัวสื่ออารมณ์แล้ว ยังเป็นสิ่งที่คนอื่นมองบ่อยที่สุดบนใบหน้าของเรา ทรงคิ้วที่ดีคือทรงคิ้วที่ถูกกับรูปหน้า และถูกกับลุคที่กำลังแต่ง เช่น คิ้วทรงตรงสีอ่อน จะเหมาะกับลุคหวานๆ ในขณะที่คิ้วเข้ม โก่งเล็กน้อย จะเหมาะกับลุคคม ๆ สีของคิ้ว ควรจะเป็นใกล้เคียงกับสีคิ้วตามและสีผม

แต่งตาก่อน หรือ เขียนคิ้วก่อน?

ช่างแต่งหน้ามืออาชีพหลายคนแนะนำให้เขียนคิ้วก่อนแต่งตา เพราะว่า คิ้วจะทำหน้าที่เหมือนกรอบหน้าซึ่งช่วยให้แต่งตาได้ง่ายขึ้น

Tips: ทุกครั้งที่แต่งคิ้วและตา อย่าลืมถอยห่างออกจากกระจกเป็นระยะ เพื่อเช็กว่า ใบหน้าโดยรวมเป็นอย่างไรเวลาถูกมองจากระดับสายปกติ บางครั้งเราโฟกัสกับบริเวณตามากไป จนลืมไปว่าสุดท้ายแล้ว ภาพรวมของทั้งใบหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

การคอนทัวร์ หรือเฉดดิ้ง เป็นอะไรที่หลายๆ คนชอบ เพราะเป็นวิธีที่ทำให้หน้าดูเรียว ดั่งโด่ง คางชัด ซึ่งการคอนทัวร์ก็คือการใส่สีเข้มและสีสว่างเพื่อเน้นโครงสร้างของใบหน้า จุดลงสีเข้มจะมีอยู่ 3 จุดหลัก ๆ คือใต้โหนกแก้ม ข้างจมูก และ คาง แน่นอนว่าสีเข้มจะต้องตามด้วยสีสว่างหรือไฮไลต์ จุดที่ควรลงสีสว่างคือจุดที่ควรได้รับการเน้น เช่น สันจมูก หน้าผาก และโหนกแก้ม

การปัดแก้ม สีของแก้มควรจะเข้าโทนกับสีของเปลือกตา เพื่อให้เมคอัพลุคดูสมบูรณ์และไปในทางเดียวกัน

บลัชออนที่เป็นเนื้อครีมจะให้ความชุ่มชื้นมากกว่าบลัชออนแบบฝุ่น ในขณะที่บลัชออนแบบฝุ่นติดทนมากกว่าแบบครีม และเหมาะกับผิวที่มันมากกว่า

Tips: เทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำพวงแก้มมีสี ดูมีเลือดฝาดตลอดวัน คือลงสีแก้มที่เป็นเนื้อครีมก่อน แล้วตามได้บลัชออนแบบฝุ่น

เช่นเดียวกับสีแก้ม การเลือกสีริมลิปสติก เราควรเลือกเฉดที่เข้ากับลุคทั้งลุค และเพื่อความสมดุล หากลุคที่เราแต่งเป็นลุคที่เน้นตา สีอายชาโดว์มีความโดดเด่น และฉูดฉาด สีลิปติกก็ควรเป็นสีที่เบาเพื่อที่จะไม่แย่งความโดดเด่นไปจากตา

สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้อีกอย่างหนึ่งคือ การบำรุง การทาลิปมัน หรือบาล์มก่อนลงลิปสติก จะทำให้ริมฝีปากอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น และทำให้สีติดทนมากขึ้น

ขั้นตอนสุดท้ายของลำดับการแต่งหน้าแบบเบสิค ๆ ของเรา คือการเซตทุกครั้งด้วยแป้งฝุ่น ลงแป้งให้ทั่วใบหน้าทุกอย่างเพื่อเป็นการล็อคเมคอัพให้อยู่ตัวและควบคุมความมันของผิวหน้า โดยแป้งฝุ่นควรจะเป็นแป้งเนื้อโปร่ง (translucent powder) หากต้องการให้ใบหน้ามีความฉ่ำมากขึ้น ก็สามารถฉีดสเปรย์น้ำแร่ หรือ เซตติ้งสเปรย์ หลังจากลงแป้งได้

ได้เรียนรู้เกี่ยวกับลำดับการแต่งหน้าที่ถูกต้องไปแล้ว เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เข้าใจและสนุกกับการแต่งหน้ามากขึ้น สุดท้ายนี้ IkonClass อยากฝากไว้ว่า ความสวยที่แท้จริงอยู่ในความเป็นตัวตนของคุณทุกคน และการแต่งหน้าเป็นเพียงตัวช่วยให้คุณดึงมันออกมา

เทคนิคของการแต่งหน้ายังมีมากมาย เรียนรู้และสร้างสรรค์ลุคใหม่ๆ ให้ตัวเองได้ที่ง่ายๆ ใน คลาสสอนแต่งหน้าและความงามกับ ป้อม-วินิจ บุญชัยศรี เมคอัพอาร์ติสตัวแม่ของวงการ